วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

Simplicity by maeda


เราพอจะเคยเห็นผลงานของมาเอดะผ่านหูผ่านตากันไปบ้างก็ดูแล้วสวยงามดี ภาพกราฟฟิกสวยเหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกันหนอ? ดูๆไปก็สวยดี แต่ไม่เห็นจะเข้าใจ งานแนวๆAbstractที่แฝงไปด้วยความหมายสำคัญๆใช่ว่าอยู่ดีดีก็จะเกิดขึ้นได้ งานเขาออกจะมีที่มาที่ไป มีหลักกฎเกณที่ถูกสร้างขึ้นโดยจอร์นมาเอดะคนนี้ เพื่อการสร้าสรรค์ผลงานของเขาเอง John Maeda ได้เขียนหนังสือชื่อ "The Laws of Simplicity"กฎแห่งความเรียบง่าย10 ข้อ

ซึ่งใครสนใจก็ไปหาหนังสือเล่มนี้มาศึกษาซะ เพราะเป็นหนังสือที่มาเอดะเขียนขึ้นเองใครได้อ่านก็เหมือนได้เรียนรู้จากมาเอดะเองมีทั้งกฎเกณ ไอเดีย แง่คิดของมาเอดะล้วนๆ


จากที่อัพบล๊อกครั้งก่อนหน้านี้ก็ได้พูดถึงเรื่อง The Laws of Simplicity ไปบ้างแร้ว และครั้งนี้ก็ค่อยๆเริ่มทำความรู้จักกฎแห่งความเรียบง่ายขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จากประโยคที่ว่า "Simplicity is about subtracting the obvious, and adding the meaningful." ความเรียบง่ายคือการลดสิ่งที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความหมายลงไป ก็เกิดกฎแห่งความเรียบง่ายอยู่10ข้อ ที่ทำให้ผลงานแนวAbstractที่เรียบง่ายมองแล้วไม่เข้าใจแต่แฝงไปด้วยความหมายที่เป็นไปตามกฎของมัน

1.การลด reduce



ทางที่ง่ายที่สุดในการสร้างความเรียบง่ายคือการลดอย่างมีการไตร่ตรองไว้หรือการเอาระบบการอื่นๆออก



2.จัดระบบ organize


การจัดระบบเป็นการทำให้สิ่งต่างที่มีอยู่มากมายน้อยลง


เปรียบเช่นบ้านเป็นสิ่งแรกเมื่อเผชิญกับปัญหาการจัดการความซับซ้อนยุ่งยาก


สิ่งเล็กๆมักจะเพิ่มเป็นทวีคูณ มีกลยุทธ์3ข้อในการจัดการปัญหาในชีวิตประจำวันนี้


1.ซื้อบ้านใหญ่ขึ้น


2.นำสิ่งของที่คุณไม่ต้องการใส่ไว้ในห้องเก็บของ


3.จัดระบบสิ่งของต่างๆที่ตั้งอยู่


3.เวลา Time


ไม่มีใครชอบการรอ เพื่อลดการรอเวลา หาหนทางเพื่อตอบสนองเร็ว


เราถือว่าสิ่งนั้นเป็นแนวทางในการสร้างความเรียบง่าย


การลดเวลาถือว่าเป็นสิ่งเรียบง่ายและเราชอบแบบนั้นแต่ว่ามันก็เกิดขึ้นยาก





4.การเรียนรู้ Learn


ความรู้ทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้น การหมุนไขควงอาจเป็นสิ่งที่ง่ายมาก


แต่ถ้าคุณไม่ได้เรียนรู้มาก่อนก็ทำให้กลายเป็นเรื่องยากมาก


ความรู้ทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ


แต่ปัญหาก็คือคุณรู้สึกว่า คุณกำลังเสียเวลาเรียนรู้สิ่งๆนั้นอยู่ นั่นคุณกำลังละเลยกฎข้อที่3 อยู่นะ





5.ความแตกต่าง Differences
ความเรียบง่ายและความซับซ้อนเป็นของคู่กัน
ยิ่งเราเห็นว่าที่การตลาดมีความซับซ้อนมากเท่าไหร่ ความเรียบง่ายก็จะเด่นชัดมากขึ้นเท่านั้น และ
เนื่องด้วยเทคโนโลยียังคงดำเนินไปในทางความซับซ้อน ทำให้มีกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเรียบง่ายขึ้นด้านการจัดการสินค้า นั่นก็คือ
ความรู้สึกเรียบง่ายในด้านการออกแบบยังต้องการความซับซ้อนเสมอๆแม้จะเป็นรูปแบบอื่นๆ





6.สิ่งแวดล้อม Context


สิ่งที่อยู่รอบนอกของความเรียบง่ายมีความสำคัญเท่ากันกับสิ่งที่อยู่ภายใน



7.อารมณ์ Emotion


อารมณ์หลากหลายย่อมดีกว่าไม่มีเลย



8.ความเชื่อใจ Trust


เราเชื่อใจในความเรียบง่าย




9.ความล้มเหลว Failure




10.ความเป็นหนึ่ง The one


ความเรียบง่ายคือการลดสิ่งที่เห็นได้ชัดออกและเพิ่มความหมายลงไป











ไม่มีความคิดเห็น: