วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551



การเปลี่ยนแปลงรูปทรง
เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความลงตัว ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ หรือมีรูปทรงใหม่ในเชิงเพิ่ม ลดปริมาตร การแยกส่วน การเจาะทะลุเป็นต้น เช่น



วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551

งานอันเก่า


หลายคนเตือนว่าควรจะอัพบล็อกบ้าง เราก็เลยไปหางานที่พอมีอยู่มาลง ย้อนไปเมื่อตอนปิดเทอมช่วงซัมเมอร์นู๊นนนนนได้ปิดนานหลายเดือน บางวันว่างๆไม่มีอะไรทำก็เรยนั่งทำillustrationเล่นๆ ประกอบกับงานภาพประกอบที่ใช้ในบางวิชาเรยเอามารวมๆกัน เดี๋ยวนี้ไม่มีเวลามานั่งทำแล้วอ่ะ การบ้านวิชาโน่นนี่นี่นั้นมากมาย รึเราขี้เกียจขึ้นก็ไม่รู้ แต่ถ้าว่างก็คงทำอีก แต่ตอนนี้ถ้าว่าง ขอนอนดีกว่าคะ







-*- ของดีดีหายหมด

ไม่ได้อัพเสียนาน เพิ่งไปเปลี่ยนรหัสใหม่มา รหัสเดิมเป็นรัยไม่รู้อ่ะเข้าไม่ได้-*-


ไปเจอบทควานึง เขาเขียนถึง"ของดีไม่มีที่อยู่ "น่าสนใจมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับนิตยสาร ad&art แค่ชื่อก็น่าอ่านแร้ว แต่โชคร้ายที่เรามาไม่ทันได้อ่าน
แต่เราก็อยากอ่านมากเพราะยิ่งฟังเขาพูดถึงก็ยิ่งยากอ่านมากกก เขาพูดแนะนำนิตยสารนี้ว่า Ad&Art นิตยสารหลบมุม เปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นปี ฉบับปฐมฤกษ์เดือนมกราคม 50 นิตยสารตัวตรงสื่อตรงว่าเป็นนิตยสารสำหรับนักคิดและนักโฆษณา และรวมไปถึงงานศิลป์ แม้ว่าหน้าปกจะเป็น Art จ๋าออกจะเอนเอียงไปทาง Abstractไม่ดึงดูดตาเท่าไหร่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่ ARtist เพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองปกที่มีดาราอกตูม สวย สง่า มาก่อน มันดูเชย ๆ หน้าปกเปลือยเปล่าไร้คำเชิญชวน ภาพประกอบปกเป็นงานศิลปปลายพู่กันแรง ๆ ไม่มีการใช้เทคนิคทางคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด ขนาดรูปเล่มไม่ใช่ A4 A5 ไม่ใช่ขนาดที่จะเห็นได้ง่าย ๆ จากนิตยสารทั่วไป
แต่ละฉบับไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเนื้อหาทุกส่วนล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อนักคิดโฆษณาและ นักออกแบบ แทบทั้งสิ้น แม้จะไม่ใช่หนังสือสัมภาษณ์คนดัง หรือ How to แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้พื้นฐานและแนวความคิดที่จะนำไปต่อยอดอันเป็นประโยชน์ต่อนักคิด Artist เพิ่มเติมความรอบรู้พื้นฐานทางศิลปะสร้างรสนิยมในการชมงานศิลปะ มากมายที่จะได้ในหนังสือเล่มนี้ คงไม่ต้องบรรยาย ขยายความไปมากกว่านี้แล้วเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นนามธรรมที่ต้องรับรู้ด้วยจิตของตนเอง ถ้ามันปกติเหมือนนิตยสารโดยทั่วไปเราคงไม่เขียนถึง แต่ความผิดปกติมันอยู่ที่มันหายากเหลือเกิน เราคิดว่าถ้าเราไม่พยายามที่จะเสาะแสวงหาตามแผงหนังสือทั่วไปแทบทุกแผงที่จะหาได้คงไม่มีโอกาสได้มันมา
คุณมนต์ทิวา ที่เคารพ กล่าวในบทบรรณาธิการ “ที่จริงคุณจะไม่ได้อ่านฉบับนี้ด้วยซ้ำ เพราะเงินทุนเราหมดแล้ว แต่ดิฉันไม่ชอบการหายไปอย่างไม่ร่ำลา กลัวคุณเข้าใจผิด อีกทั้งเสียดายงานทั้งหมดที่ทำไป จึงขอให้บริษัท ……..แต่ดิฉันยังรักที่จะทำหนังสือ Ad&Art ต่อไปอีก จึงใช้สมองอย่างหนัก แล้วความคิดก็เกิดคือแทนการวางจำหน่ายตามแผงหนังสือ เราจะส่ง หนังสือให้ผู้อ่านโดยตรง คำนวณจากค่าใช้จ่ายคือต้องมีสมาชิกสองพันรายขึ้นไป และมีคนทำงานสามคนด้วยเงินเดือนต่ำกว่าปกติ…….. คงได้พบกันอีก ถ้าปาฏิการิย์มีจริง(อีกครั้ง)”

คือ...ยังทันอยู่มั้ยสำหรับคนที่สนใจ รึว่าอด ต้องทำใจคะ-*-